วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

หน้าแถวเช้านี้ 12 ธ.ค.57


เมื่อวาน(11 ธ.ค.57)ไม่มีคดีอาญา และคดีความมั่นคง วันนี้สถานการณ์เกิดขึ้นจากความคิดเห็นต่าง วันนี้ความคิดในการปฏิบัติการในเรื่องต่างๆ มีการปิดล้อมตรวจค้น มีการจับกุม และมีการใช้ความรุนแรง และอาวุธในการที่เราเข้าไปดำเนินการ ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมามีผู้สูญเสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก วันนี้เราได้พูดคุยแล้วได้ใช้ เชิงสัญลักษณ์สันติวิธี ความคิดเห็นต่างได้รับการแก้ไข ลงไปพูดคุยทำความเข้าใจ ขอโทษ แล้วรับปัญหา ที่อยากจะนำมาแก้ไข ท่านแม่ทัพฝากผมมาว่า วันนี้กองกำลังตำรวจต้องใช้ยุทธศาสตร์ในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพ การมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งการมีส่วนร่วมของประชาชน ก็คือการให้พวกเราได้รู้ความต้องการของประชาชน ประชาชนเขาต้องการอะไร วันนี้เมื่อเรารู้ตรงนั้นแล้ว ก็เอาความรู้ตรงนั้นมาคิดมาทำ อย่าทำเพียงลำพัง แล้ววันนี้ ศชต.เราทำในสิ่งหนึ่ง คือการนำเอาพลังประชาชนมาร่วมในการทำงาน พลังประชาชนในมิติต่างๆ ที่เราไปแสวงหามา เราไปจัดตั้งมา ขณะนี้ได้เป็นรูปเป็นร่างได้ลงไปเยี่ยมในทุกจุดที่เป็นพลังประชาชน ได้ไปให้คำมั่นสัญญา ได้ให้ทรัพยากรสนับสนุน  แล้วก็ให้ในอีกหลายๆ เรื่องที่เขาอยากจะได้ ความต้องการของเขาอยู่เต็มโต๊ะผม ตรงนี้ผมอยากจะเรียนนะครับว่า วันนี้พวกเราอาจจะต้องทำงานหนักในเรื่องของงานกิจการพลเรือน ในเรื่องของท่าทีของเรา ท่าทีของพนักงานสอบสวน ท่าทีของจราจร ท่าทีของงานปราบปราม มันจะต้องเป็นท่าทีที่ดี สอดรับกับแนวทางของรัฐบาลที่ต้องการให้สันติสุขเกิด วันนี้เรากำลังเดินไปด้วยความมั่นคง ก็ต้องขอขอบคุณพวกเราที่ช่วยกันส่งเสริม ช่วยกันสร้าง มันเป็นความเข้มแข็งขององค์กรตำรวจที่จะประกาศให้รู้ว่า “วันนี้ตำรวจจะทำให้ได้” ผมไม่นานจะเกษียณแล้ว แต่สิ่งเหล่านี้จะต้องยั่งยืนกับพวกเรา อะไรต่างๆ เหล่านี้ ในเรื่องความคิดใหม่ๆ ของพวกเราถ้ามีก็บอกมาที่ผม ผมพร้อมน้อมรับแล้วก็จะเอาไปดำเนินการในเรื่องที่สามารถทำได้

ขอขอบคุณพวกเราทุกคนที่เป็นกำลังใจให้กับผู้บังคับบัญชาในเรื่องต่างๆ และให้ความร่วมมือ 

วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พบกันยามบ่ายประจำวันที่ 10 ธ.ค.57

นักต่อสู้ทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือว่าเป็นผู้ที่มีจิตใจดีงามมีความรักพวกพ้อง ความเป็นธรรม เสมอภาค
                วันนี้การแก้ไขปัญหาความรุนแรง ที่ผมยืนยัน เสมอว่าพี่น้องมุสลิมรักสันติต้องการสันติสุข ปฏิเสธความรุนแรง สิ่งหนึ่งผมต้องแสดงให้สังคมเห็น และยอมรับพวกเราเป็นอย่างนั้นจริง สิ่งที่พวกเราเห็นเป็นความรุนแรงที่เกิดจากความชอกช้ำ ความขมขื่นที่เกิดในจิตใจต่อเหตุการณ์ที่กระทบต่อตัวเอง และครอบครัวเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิตเรา เราจะต้องร่วมเดินทางไปด้วยกันครับ พี่น้อง เราจะร่วมกันสร้างสันติสุข ที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าของพี่น้อง เราจะต้องช่วยกันลบคราบน้ำตาออกจากดวงตา และใบหน้า ผมสัญญา ผมจะยืนเคียงข้างพี่น้อง ยืนยันความถูกต้องของพี่น้องให้ปรากฏ

                ขอความสันติสุข เมตตา จงบังเกิดกับพี่น้องโดยทั่วกัน

พบกันยามเช้าประจำวันที่ 10 ธ.ค.57

พระเจ้าประทาน ความรักต่อแผ่นดินถิ่นเกิด เราจะตอบแทนคุณ
มาเลเซีย ประเทศเขาประกาศร้านอาหารเป็นอาหารฮาลาล ทั้งประเทศ เพื่อเฉลิมฉลอง AEC และจะมีพี่น้องมุสลิมจากซีกโลกตะวันออกกลาง และกลุ่มอาหรับมาท่องเที่ยวที่ประเทศมาเลเซีย ประมาณ 500 ล้านคนในปี 58 เป็นต้นไป
เครื่องหมายฮาลาลในประเทศไทย

ของไทยเรามีชื่อเสียงเรื่องฝีมือในการประกอบอาหาร ผมเคยไปรับประทานเป็นอาหารที่อร่อยรสชาติเฉพาะตัว ทราบได้เลยว่าเป็นฝีมือรังสรรค์ของพี่น้องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไปเปิด เรารับประทานด้วยความอร่อย และสรรเสริญพี่น้องที่ทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเรา ผมเคยถามว่าอยากได้อะไรไหม พวกเขาเหล่านั้นบอกอยากให้ลูกหลานที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย ได้เรียนรู้ และพูดภาษาไทยได้ อยากได้มากๆ
เครื่องหมายฮาลาลในประเทศมาเลเซีย

พวกเราตื่นได้แล้วโอกาสของเรามาถึงแล้ว โดยนำร่องยกร้านจำหน่ายอาหาร แต่ละจังหวัดให้มีคุณสมบัติเป็นร้านอาหารฮาลาลโดยเราประกาศทุกเดือนว่าจังหวัดเรามีร้านอาหารฮาลาลเท่าใด และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนครบตามเป้าหมายที่กำหนด
คนไทย และนักท่องเที่ยวจะรู้ และเข้าใจอาหารฮาลาล ต่อไปโรงงานก็จะแข่งขันกัน เปิดเป็นโรงงานอาหารฮาลาลเพื่อตอบสนองเศรษฐกิจ
วันนี้เราเห็นความสุข และความสวยงามของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ใส่เสื้อบาติก กินอาหารฮาลาล มันเป็นภาพที่ทุกคนอยากเห็น อยากให้เกิดขึ้นโดยเร็ว

ขอความสันติสุข เมตตา จงบังเกิดกับพี่น้องโดยทั่วกัน

วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ขอขอบคุณสำนักข่าวอิศรา และคุณอังคณา นีละไพจิตร


ผมขอสัญญากับพี่น้องประชาชน สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมทำงานจะยึดประโยชน์ และความสุขของพี่น้องเป็นหลัก ทุกอย่างที่คิด ทุกอย่างที่ทำ ต้องมีพี่น้องอยู่ในหัวใจ “แก้ไขปัญหาต่างๆ โดยใช้ความละมุนละม่อม มองพี่น้องในพื้นที่ด้วยแววตาที่มีความห่วงใยมีความรักความผูกพันให้กันอย่างมั่นคง”

ผมปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มา 34 ปี ผมได้รับโอกาส ในฐานะผู้นำกองกำลังตำรวจ ผมจะไม่หลงในอำนาจ ผมไม่สนับสนุนให้ตำรวจใช้ความรุนแรง วันนี้รัฐ ส่งตำรวจมาทำงานในหน้าที่กองกำลังประจำถิ่น มีหน้าที่บริการประชาชน ไม่ใช่มารบ หรือทำสงครามกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ตำรวจต้องน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” มาขัดเกลาตนเอง และอยู่ร่วมกับประชาชน
วันนี้พี่น้องครับ ยาเสพติดระบาดในกลุ่มเยาวชนของเรา ผมจะรีบเร่งแก้ไขปัญหาความทุกข์ใจของพี่น้องให้ทุเลาโดยเร็ว โดยแสวงความร่วมมือทุกภาคส่วน      
บ้านของเราจะต้องสวยงามครอบครัว อบอุ่น ลูกคืนสู่อ้อมอกของพ่อแม่ เป็นเรื่องเร่งด่วนสำคัญที่สุดประการหนึ่ง


ขอความสันติสุข ความเมตตา และความจำเริญ จงบังเกิดแด่พี่น้องที่รักทุกท่าน

พบกันยามบ่ายประจำวันที่ 4 ธ.ค.57


ผมมีความสุขมากๆ ที่ได้ทำงานใกล้ชิดกับพี่น้องมุสลิม ผมมีความอบอุ่นใจที่ได้รับโอกาสทำงานในหน้าที่ตำรวจให้กับพี่น้องมุสลิมใน สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
             พี่น้องครับนายกฯ ของเราไปประเทศมาเลเซีย เพื่อพูดคุยสันติสุข มีภาพของการสื่อสาร ออกมาให้เห็น มีแผ่นป้าย แสดงความรู้สึกทางการเมือง แขวนตามริมทางในเวลากลางคืน ทั้ง สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ซึ่งประมาณว่าสื่อสารให้เห็นว่าเป็นประชาธิปไตย ซึ่งก็เป็นการแสดงความต้องการของพวกเรา เพราะประชาธิปไตย คือความอบอุ่น คือหลักประกันทางสังคม
             วันนี้การทำงานในมิติต่างๆ เดินทางมาไกลแล้ว รอสักนิดเราจะมีรัฐธรรมนูญที่จัดระเบียบ ระบบการเมือง ระบบราชการ จะเป็นรัฐธรรมนูญที่ทำให้ทรัพยากรของชาติมั่นคงเป็นประโยชน์ต่อลูกหลาน ซี่งต่อไปนี้ใครจะมาถือครองเปลี่ยนแปลงไปง่ายๆ คงไม่ได้ มันมีความหมายอย่างมาก
              ผมและพวกเราจะต้องรอ ในระยะเวลาอันใกล้ประเทศชาติจะสวยงาม เพราะพวกเรารังสรรค์ ต้องให้โอกาส และพระเจ้าจะประทานสิ่งดีๆ สู่พี่น้องในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของเรา
                ขอสันติสุข ความเมตตา และความจำเริญจงบังเกิดแด่พี่น้องที่รักทุกท่าน

วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

งานเมาลิดสานสัมพันธ์เชื่อมไมตรี พี่น้อง มุสลิม ณ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี


กราบขอบคุณผู้จัด ผู้เชิญ ทุกท่าน วันนี้ถือว่าเป็นวันที่มีความสุขมากวันหนึ่ง ได้รับฟังคำบรรยายของศาสตราจารย์ มูฮัมหมัด  ฮามีฟ อุมัร บิน ฮาฟีส อธิการบดี สถาบันดารุสมุสตาฟา เมืองดารัม ประเทศเยเมน ในงานเมาลิดสานสัมพันธ์เชื่อมไมตรี พี่น้อง มุสลิม ณ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี (26 พ.ย.57)

          การอยู่ในงานทามกลางบรรยากาศที่ร้อน กลางแจ้งมีเต็นท์กางบังแดดเพื่อลดความอบอ้าว ได้พบกับพี่น้องมาเบียดเสียดต้อนรับท่าน และคณะ ซึ่งทราบว่ามาจากประเทศเยเมน ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย รวมแล้วจำนวนประมาณ 150 ท่าน ทั้ง 150 ท่านได้อยู่บนเวที และห้อมล้อม ท่าน มูฮัมหมัด ฮามีฟ อุมัร บิน ฮาฟีส ขณะแสดงธรรมอยู่ 
ในส่วนบรรยากาศมีพี่น้องจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประมาณไม่น้อยกว่า 5-6 พันคน ยืนและนั่งฟังการแสดงธรรมอยู่ด้วยความรู้สึกที่กระหาย อยากได้สัมผัสกับบุคคลชั้นนำที่ทรงพลังของโลกโดยไม่ย่อท้อ
ผมได้ร่วมรับฟังกับพี่น้องทั้งหมดด้วยโดยท่านได้บรรยายธรรม มีการแปลเป็นภาษามาลายูท้องถิ่น และภาษาไทย ซึ่งสร้างความพึงพอใจให้กับพี่น้องเป็นจำนวนมาก มีการยืนรับพร และประสานเสียงร่วมกับ    อูลามะ ที่มาร่วมกิจ ณ ที่นั้นโดยตลอด

ผมได้รับฟังธรรมะตอนหนึ่งซึ่งแปลเป็นภาษาไทยโดยท่าน มูฮัมหมัดอาดัม บาบอมะภูมี ว่าศาสนาเข้าไปสู่ที่ไหนจะมีความสุขสงบ ยกตัวอย่างประเทศอียิปต์ ซึ่งแต่ก่อนนับถือศาสนาคริสต์ต่อมาเปลี่ยนแปลงเป็นอิสลาม ซึ่งศาสนาอิสลาม สามารถอยู่ร่วมกันกับทุกศาสนาอื่นมาเป็นร้อยๆ ปี และเปรียบเสมือนพี่น้องกัน

ศาสนาสอนให้ไม่กระทบ ให้ความรักซึ่งกัน และรักกันตลอดไป มุสลิมที่ถูก ต้องเป็นหน้าที่ของคนมุสลิมต้องสร้าง ต้องช่วยให้คนเข้าใจอิสลามที่ถูกต้อง ท่านกล่าวต่อไปอีกว่า มุสลิมไม่มีโอกาสทำสงครามโดยสงบ หลักศาสนาไม่ต้องการสงคราม ต้องการความสงบสันติ
ท่านสรุปในช่วงท้ายว่า ดีใจมีโอกาสพบกับมุสลิมที่ดีอยู่กับคนอื่นได้ ศาสนาสอนให้ ไม่กระทบ ให้ความรักซึ่งกัน และรักกันตลอดไป

ผมได้นั่งฟังการบรรยายธรรมอยู่นาน ไม่เกิดความรู้สึกร้อน หรือเบื่อเลย ใจจดใจจ่อต่อคำบรรยาย ซึ่งในภาวะของจิตใจบอกว่าเป็นคำบรรยายธรรมที่มีคุณค่ามาก มีจิตวิญญาณ ฟังแล้วรู้สึกอิ่มเอิบ มีความหวัง  คิด และรักพี่น้องมุสลิมมากยิ่งขึ้นมันเป็นภาวการณ์ที่เกิดขึ้นในจิตใจ และสำนึก ไม่มีใครบังคับ ผมได้รู้ซึ้งถึงหลักศาสนาที่เน้นการสร้างสันติให้อภัย ซึ่งพระศาสดาประสงค์ให้เกิดกับทุกคน
            ขอสันติสุข ความเมตตา บังเกิดกับพี่น้องมุสลิมที่เคารพรักทุกคน

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วันที่ 20 พ.ย. 2557 เวลา 11.00 น. ผบช.ศชต. พบปะพูดคุยกับผู้มีความเห็นต่าง


วันที่ 20 พ.ย. 2557 พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ ผบช.ศชต. พบปะพูดคุยกับผู้มีความเห็นต่าง ยินดีเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม ตามแนวทางสันติวิธี พบปะพูดคุย ร่วมกันแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้สู่ส­ันติสุข

พบกันยามเช้าประจำวันที่ 20 พ.ย.57


           ผมขอขอบคุณพี่น้องที่ได้ฝากข้อความบนแผ่นป้ายผ้าจำนวน 16 แผ่นมาถึงผม ผมได้รับเรียบร้อยแล้ว ขอเรียนยืนยันว่าทุกปัญหามีทางออก และวิธีแก้ไข ขอให้พวกเราร่วมมือกันเพื่อสร้างสันติสุข และขจัดปัญหาหวาดระแวงให้หมดสิ้น และจะรีบเร่งแก้ปัญหาสร้างสันติสุขตามที่พี่น้องต้องการโดยเร็ว ขอให้พี่น้องสบายใจได้ สิ่งที่พี่น้องส่งมา ถึงมือผมแล้ว จะได้ขยายความรู้สึกต่าง ๆ ไปสู่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้รับรู้ เข้าใจพี่น้อง อย่างแท้จริง

                     ขอสันติสุข ความเมตตา และความจำเริญจงบังเกิดแก่พี่น้อง

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

พบกันยามเช้าประจำวันที่ 19 พ.ย.57

          

         ผมขอขอบคุณพี่น้องที่ได้ฝากข้อความมาถึงผมในการสื่อความหมายที่ดี เราจะแก้ไขปัญหาการต่อสู้ทางความคิด สร้างความเข้าใจในความเห็นต่าง โดยจะได้รับการแก้ไข และยอมรับ ซึ่งทำให้ผมได้ตระหนัก และทำในสิ่งที่ดี ๆ ที่เป็นความต้องการของพี่น้อง จากข้อความบนสื่อ และแผ่นป้ายผ้าที่ติดตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อบอกให้รู้ว่าการกระทำที่ผ่านมา ใช้ความรุนแรงไม่ได้ใช้สันติวิธี
         วันนี้พี่น้องให้โอกาสผมโดยไม่พยายามใช้ความรุนแรงมาตอบโต้ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีกับการปฏิบัติงาน เรายึดจุดต่อสู้ทางความคิดโดยสันติวิธี มาเป็นแนวการปฏิบัติงานทุกภารกิจ ขอให้พี่น้องสบายใจได้และผมจะทำด้วยความเชื่อมั่นต่อพี่น้อง

                                       ขอสันติสุข ความเมตตา และความจำเริญจงบังเกิดแก่พี่น้อง

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ผู้นำศาสนาจังหวัดปัตตานี สมาพันธ์โรงเรียนเอกชนสอนศาสนา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะดาวะห์สัญจร เข้าพบปะและแลกเปลี่ยนความคิด

วันที่ 18 พ.ย. 2557 เวลา 14.30 น. พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ ผบช.ศชต. ได้รับเกียรติจากผู้นำศาสนาจังหวัดปัตตานี  สมาพันธ์โรงเรียนเอกชนสอนศาสนา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะดาวะห์สัญจร พบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้

  








วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

พบกันยามเช้าประจำวันที่ 14 พ.ย.57



ขอสันติสุข ความเมตตา และความจำเริญจงบังเกิดแก่พี่น้องที่รักทุกท่าน ตลอดระยะเวลา ๑๐ ปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนตลอดจนข้าราชการทหาร ตำรวจ ครู และฝ่ายปกครองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก พี่น้องได้รับบาดเจ็บพิการ ทรัพย์สินเสียหาย อันเกิดจากความไม่เข้าใจกัน และความหวาดระแวงต่อเจ้าหน้าที่รัฐ    ผมฐานะผู้บังคับบัญชาตำรวจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ “ขอกล่าวคำ ขอโทษ และขอแสดงความเสียใจถึงพี่น้องประชาชนที่สูญเสีย” โดยขอโอกาสที่จะนำความสันติ สมานฉันท์ เสมอภาค เป็นธรรม คืนกลับมาสู่พี่น้องประชาชน โดยมีประชาชนเป็นหลักคิดหลักปฏิบัติ จำกัดการใช้  ความรุนแรงจากอาวุธในมิติต่างๆ ใช้วิธีพูดคุยทำความเข้าใจปฏิบัติด้วยความละมุนละม่อม เป็นปัจจัยนำการสร้างสันติสุข ปรองดอง เพื่อให้แผ่นดินแห่งนี้บังเกิดความสุขประชาชนได้ประโยชน์อย่างแท้จริง
สำหรับเหตุการณ์ประจำวันที่ ๑๓ พ.ย.๕๗ ที่ผ่านมานั้น ได้มีเหตุการณ์คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ และขว้างระเบิดสังหารแบบเอ็ม ๖๗ จากบนสะพานเฉลิมพระเกียรติ เข้าไปภายในร้านเพื่อนคาราโอเกะ  แต่ระเบิดไม่ทำงาน และเจ้าหน้าที่ได้เก็บกู้ไว้ได้อย่างปลอดภัย ผมจะพยายามหาวิธีการที่จะมาใช้ให้เหตุการณ์ลดความรุนแรงโดยการป้องกัน และพูดคุยทำความเข้าใจ